“สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี พลาดท่าแพ้ “ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด คาบ้าน ในศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก รอบ 8 ทีม นัดแรก
การแข่งขันฟุตบอลยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2021-22 รอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดแรก ประจำวันพุธที่ 6 เม.ย. 65 คู่ที่น่าสนใจ “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี จากศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เปิดสนามสแตมฟอร์ด บริดจ์ รับการมาเยือนของ “ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด ยักษ์ใหญ่จาก ลา ลีกา สเปน
เปิดฉากครึ่งแรกมาถึงนาทีที่ 21 เรอัล มาดริด ได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ วินิซิอุส จูเนียร์ หลุดมาในเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนเปิดบอลเข้ากลางให้ คาริม เบนเซมา โหม่งเข้าไปตุงตาข่าย
จากนั้นนาทีที่ 24 เรอัล มาดริด หนีเป็น 2-0 เมื่อ ลูกา โมดริช เปิดบอลเข้ากรอบเขตโทษให้ คาริม เบนเซมา โขกเสียบเสาไกลเข้าไปอย่างสวยงาม
ถึงนาทีที่ 40 เชลซี ไล่มาเป็น 1-2 จากจังหวะที่ จอร์จินโญ เปิดบอลจากแนวลึกเข้าเขตโทษให้ ไค ฮาเวิร์ตซ์ โฉบมาโหม่งเข้าไป ก่อนจะจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้
กลับมาเล่นต่อครึ่งหลัง นาทีที่ 46 เรอัล มาดริด นำห่าง 3-1 เมื่อ คาเซมิโร เปิดบอลยาวขึ้นหน้า เอดูอาร์ด เมนดี ผู้รักษาประตูเชลซี ออกมาเล่นบอลนอกเขตโทษ ก่อนจ่ายพลาดไปเข้าทาง คาริม เบนเซมา ดักได้ก่อนยิงเข้าไปง่ายๆ
จากนั้นนาทีที่ 68 เชลซี ชวดได้ประตูจากจังหวะที่ โรเมลู ลูกากู ที่ลงมาเป็นตัวสำรองได้โหม่งโล่งๆ ในเขตโทษ แต่บอลหลุดเสาสองอย่างน่าเสียดาย
ถัดมา 2 นาที เชลซี ได้ลุ้นต่อเนื่อง เมสัน เมาท์ ปั่นด้วยขวาจากนอกกรอบ บอลพุ่งข้ามคานไปนิดเดียว
ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ จบเกม เรอัล มาดริด บุกมาเอาชนะ เชลซี 3-1 กุมความได้เปรียบก่อนกลับไปเล่นที่ ซานติอาโก เบร์นาเบว รังเหย้าของตัวเองในวันที่ 12 เมษายนนี้
รายชื่อ 11 ตัวจริงของทั้ง 2 ทีม
เชลซี: เอดูอาร์ด เมนดี (GK), อันเดรียส คริสเตนเซน, ติอาโก ซิลวา, อันโตนิโอ รูดิเกอร์, รีซ เจมส์, เซซาร์ อัซปิลิกูเอตา, เอ็นโกโล ก็องเต, จอร์จินโญ, เมสัน เมาท์, คริสเตียน พูลิซิช และ ไค ฮาเวิร์ตซ์
เรอัล มาดริด: ติโบต์ กูร์กตัวส์ (GK), ดานี คาร์บาฆาล, เอแดร์ มิลิเตา, แฟร์กล็องด์ เมนดี, ดาวิด อลาบา, โทนี โครส, ลูกา โมดริช, คาเซมิโร, เฟเดริโก บัลเบร์เด, วินิซิอุส จูเนียร์ และ คาริม เบนเซมา